ติวสถาปัตย์ มัณฑนศิลป์ วาดเส้น นิเทศศิลป์ drawing เรียนสถาปัตย์: ฟืนจุดไฟสำหรับน้องๆ...ความฝัน กับ เป้าหมาย

Monday, September 5, 2011

ฟืนจุดไฟสำหรับน้องๆ...ความฝัน กับ เป้าหมาย

สำหรับน้องๆ Born to be Art และคนที่เผลอเข้ามาอ่านทุกคนนะครับ

ขอแทนตัวเองว่า"พี่"นะครับ

วันนี้พี่มีอารมณ์ศิลป์พุ่งกระฉูดจึงนั่งเขียนบทความเกี่ยวกับความฝันนี้ขึ้นมานะครับ

เป็นเรื่องราวของพี่เอง (BATT) ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วเบื่อหรือไม่ชอบให้ข้ามไปเลยนะครับ
***จะComment มาก็ได้ แต่ผมไม่ต้อนรับคำติติงครับ อิอิ***

...

เมื่อพูดถึงความฝัน

ในนิยามของพี่ คำนี้ก็ไม่ต่างจากคำว่าเป้าหมาย

ความฝัน=เป้าหมาย

***ไม่ได้โฆษณากระทิงแดงนะจ๊ะ***
การจะตามหาเป้าหมายในชีวิตนั้นบางทีนั่งเทียนเขียนออกมาก็ยังนึกไม่ออก
ว่าเป้าหมายในชีวิตของเราจะเป็นยังไง เราคาดหวังไว้แบบไหน วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า อีก4-5ปี และต่อๆไปจะเป็นยังไง

พี่เห็นน้องๆหลายคนกำลังมีไฟ และน้องๆหลายคนที่ยังคงต้องการฟืน

พี่คิดว่าเรื่องราวของพี่คงเป็นประโยชน์กับน้องๆบางคนได้ ไม่มากก็น้อย
เลือกทำตามเฉพาะในสิ่งดีๆนะครับ

เขียนจากประสบป์การณ์ของพี่ซึ่งก็ห่างจากน้องๆเพียง 9-10ปี
ตัวพี่ในตอนที่เริ่มเรียนวาดรูปครั้งแรก (ตอนที่น้องๆคงอยู่ ป.1-ป.2)
พี่ไม่เคยรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อหลังจากนี้ เรียนไปแล้วเราจะได้อะไร
เรียกว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องดังกล่าวเลย

ขอท้าวความไปก่อนที่จะได้เรียนวาดรูปละกันนะครับ



เนื่องจากในตอนนั้นพี่เป็นเด็กเกเร และไม่เคยสนใจสิ่งรอบตัว
นอกจากความสุขวันต่อวันของตัวเอง
ติดเล่นเกมส์งอมแงม เล่นกีฬาบ้าง ทะเลาะกับคนอื่น ทำสิ่งไม่ดี
แอบสูบบุหรี่ และอีกหลายๆอย่าง ซึ่งเราเห็นเพื่อนมันก็ทำกันปกติ
(ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง)

แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตมาจาก วันหนึ่งที่พี่มีปัญหากับที่บ้านอย่างหนักมาก
แล้วค้นพบตัวเองว่า นอกจากเหรียญทองแดงในการว่ายน้ำตอน ม.1แล้ว
เราไม่เคยทำอะไรดีๆให้กับตัวเองและคนรอบข้างเลย
(ทั้งๆที่ถูกสอนอยู่เสมอว่าที่บ้านไม่ได้ร่ำรวย
ทำไมจึงไม่ตั้งใจเรียนหรืออะไรต่างๆนานา สุดแล้วแต่พ่อแม่จะบ่น)

เห็นพ่อแม่น้ำตาไหล พี่ชายพี่สาวก็พลอยเหม็นหน้าเราไปด้วย
คนในบ้านไม่อยากคุยกับเรา

เหตุการณ์ในตอนนั้นคือพี่เรียนได้ 1.83
ซึ่งสำหรับพี่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร .83ได้มาก็บุญแล้ว

แต่กลับไปเจอเรามีเรื่องวางมวยกับพี่ชายตัวเอง กับคนอื่นไม่เท่าไร
และก็จับได้ว่าดูดบุหรี่ ผลคือ GAME OVER!

ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกตัวและคิดเพียงว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างซะแล้ว!

พี่ก็เอาเงินเก็บจาก แต๊ะเอีย ทั้งชีวิต! (T.T) ทั้งหมด14,000
ไปสมัครเรียนพิเศษเอง หลายวิชา หมดหูรูดเลยครับ

โดยตั้งใจว่าคราวนี้จะลองดูดี๊ ทำได้มั้ยตู!

อยากให้คนอื่นรู้สึกดีกับเราบ้าง และไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ

พี่ตั้งใจอ่านหนังสือเป็นอย่างน้อยวันละ 1-2ชม.
ทำแบบฝึกหัดต่างๆ โดยที่ยังคงเตะบอลเล่นกับเพื่อนๆในตอนเย็น
แล้วค่อยเดินไปนั่งรถเมล์กลับบ้าน

ตอนนั้นมีแฟน ก็ยังได้เที่ยวเล่นกัน***เดินห้างอย่างเดียว เดินล้วนๆเพราะไม่มีเงิน
กินข้าวได้แพงสุดก็ไข่ปิ้ง กับ ไวตามิลค์(เรื่องนี้"พี่กัน"จะเก่งมาก)

ผลก็คือเทอมนั้นพี่สอบได้ 3.18 เป็นการเหยียบเลข 3 ครั้งแรกในชีวิต
ทุกคนงง พ่อแม่ก็งง เพื่อนงง หลายๆคนพูดว่า"ไอ้แบดโชคดี"
แต่พี่ไม่งง เพราะพี่รู้ว่าสิ่งที่ได้รับมามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันไม่ใช่โชคดี!

เกี่ยวกับเรื่องเป้าหมาย นี่เป็นบทพิสูจน์แรกในชีวิต พี่ดีใจมาก
มันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับบางคน แต่สำหรับพี่แล้ว จากคนที่เรียนหนังสือไม่ได้
ต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าคนอื่นหลายเท่า เพราะเราต้องไปทวนบทเก่าๆ
อ่านหนังสือก็จิตหลุด ต้องอ่านซ้ำบรรทัดละ2ครั้ง

หลังจากนั้นก็สามารถเรียนได้อย่างเข้าใจมากขึ้น คล่องแคล่วในวิชาเลขและฟิสิกส์ขึ้น
คอยช่วยเหลือเพื่อนๆในวิชาดังกล่าวได้บ้าง

และได้มาเริ่มเรียนวาดรูปวิชา drawing ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเป้าหมายในชีวิต

อ่านต่อตอนที่สองนะครับ

No comments:

Post a Comment